เติมน้ำมัน

วันนี้เลี้ยวรถเข้าไปเติมน้ำมันบางจาก เรื่องของเรื่องไม่ใช่อะไร อยากเติมโซฮอลล์ 91 ที่หาเติมยากเหลือเกิน เลี้ยวเข้าไปถึงปรากฏว่าเป็นปั๊มแบบเติมด้วยตัวเอง เอาล่ะเว่ย เจอของแปลก ขั้นตอนมีดังนี้

  1. จอดรถเข้าซองให้เรียบร้อย ถ้าเต็มก็ต่อคิวกันไป
  2. จอดเสร็จ เดินไปเคาท์เตอร์ จะมีพนักงานอยู่คนเดียวทั้งปั๊ม บอกไปว่าคันไหน จะเติมเท่าใหร่ แล้วทิ้งบัตรเครดิตไว้
  3. เดินกลับไปที่รถ เปิดช่องเติมน้ำมันเตรียมหัวจ่ายให้พร้อม
  4. เสียบหัวจ่าย แล้วบีบไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวน้ำมันล้นแล้วมันจะพุ่งใส่ เพราะเวลาเต็มแล้วมันจะตัดเอง (แต่วันนี้ตอนเติมนี่โคตรกลัวเลย)
  5. เติมเสร็จแล้วเก็บหัวจ่ายปิดช่องเติม
  6. เดินไปจ่ายตังค์ ถ้าใช้บัตรเครดิตปั๊มจะพิมพ์สลิปรอไว้แล้ว ก็เซ็นแล้วรับของแถม
  7. เรียบร้อย

ป้ายบอกว่าเติมเองนี่ถูกกว่าปั๊มปรกติ 20 สต. ต่อลิตร รวมๆ แล้วก็ประมาณ 6-7 บาท (ค่าตัวเด็กปั๊มแพงขนาดนั้น!!!) รวมกับค่าเงินบาทที่ช่วยให้เราเติมน้ำมันถูกลงเรื่อยๆ และช่วยให้คนว่างงานอีกหลายคนเพราะโรงงานเลิกกิจการ การเติมรอบนี้ก็ถูกลงไปกว่าปรกติร้อยกว่าบาทเอาเหมือนกัน

บทสรุปก็หลังจากหายกลัวน้ำมันพุ่งแล้วคงมาเติมปั๊มนี้อีกเรื่อยๆ เพราะมีโซฮอลล์ 91 แถมผ่านทุกวันอีก

 

ตะปูกับล้อรถ

ประสบการณ์พาล้อรถไปเหยียบตะปู (ที่จริงเป็นน็อต) เป็นครั้งแรกสอนอะไรหลายๆ อย่าง

  • อย่าเอาตะปูออกเอง ยางที่มีตะปูปักอยู่อาจจะขับไปได้ถึงสามสัปดาห์โดยไม่มีผลอะไรกับชีวิต (แต่เพิ่มความตื่นเต้น) แต่ถ้าเอาออกยางอาจจะแฟ่บในนาทีเดียว แล้วความซวยจะมาบังเยือน
  • ร้านปะยางพร้อมกว่าเรามาก ถ้ายางพอไปไหว วิธีที่ดีกว่าคือการเติมลมแล้วรีบขับไปเปลี่ยนยางที่ร้าน
  • ปะยางเร็วมาก ไม่ถึง 20 นาที (ยกรถยังไม่ถึงนาทีเลย)
  • ค่าปะยาง 80-120 บาท
  • ยางทะลุครั้งนี้ผมเสียไป 120 เป็นค่าปะยาง 80 และค่ากาแฟนั่งรอยางอีก 40 -_-“
  • ความรู้ใหม่ ยางรถเค้าไม่มียางในกันเป็นสิบปีแล้ว (ไปอยู่ไหนมานี่ตู)

บอกแล้ว ช่วงนี้มีเรื่องกับรถตัวเองบ่อย

 

denied

นิสัยอย่างหนึ่งของคนไทย (ไม่เคยไปนอก ไม่รู้มีประเทศไหนเป็นมั่ง) คือการปฎิเสธก่อนที่จะตอบคำถามใดๆ เช่น “ไปไหนมา?” คำตอบในทันทีคือ “เปล่า” แล้วตามด้วยคำตอบที่แท้จริง

นิสัยแบบนี่โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่ามันเกิดจากความกลัวที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ผ่านเข้ามา แม้สิ่งนั้นจะเป็นแค่คำถามที่ดูไม่มีพิษมีภัย

เรากลัวทุกอย่าง… ที่เข้ามาใหม่ในชีวิตของเรา หลายครั้งเราปฎิเสธหลายๆ อย่างไว้ก่อน เพื่อจะได้มีเวลาพิจารณามันให้ดีขึ้นต่อไป

ที่น่าเสียดายคือหลายๆ สิ่งที่เราปฎิเสธไป ไม่ได้มาอยู่รอเราที่จะตัดสินใจใหม่อีกครั้ง


แท้จริงแล้วทุกอย่างก็ล้วนน่ากลัวทั้ง คล้ายในหนังสือการลงทุนหลายๆ เล่มว่าทุกอย่างมีความเสี่ยง แม้เราจะเก็บเงินไว้ในตุ่มหลังบ้านก็ยังคงมีความเสี่ยง

วันนี้ผมเองขับรถด้วยความเร็ว 80 อยู่ช่องทางกลางด้วยการขับมารยาทงามเป็นพิเศษเนื่องจากค่อนข้างเหนื่อยจากการเรียน

แต่แล้วรถคันข้างหน้าก็เสีย เจ้าของรถหยุดกระทันหันให้ผมที่ตามหลังไปไม่ถึงร้อยเมตรต้องตัดสินใจในช่วงเสี้ยววินาทีที่จะขอทางแล้วเปลี่ยนช่องทางนั้นเอง

จะ เกิดอะไรขึ้นถ้าวินาทีนั้นผมปฎิเสธที่จะตัดสินใจ…..


กับคำถามสั้นๆ เราคงไม่ต้องคิดอะไรมากมายเพื่อที่จะพิจารณาใหม่ แล้วตัดสินใจตอบอีกครั้ง
กับเรื่องอีกหลายๆ เรื่องที่จะมีผลกับชีวิตเราไปอีกนานกว่านั้นก็ดูเหมือนจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ปล. ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์เฉียดตายประจำวัน

ปล2. ช่วงเดือนที่ผ่านมา ผมกับรถเจอเหตุการณ์บังเอิญแบบไม่น่าบังเอิญเยอะ ถ้าเหตุการณ์อย่างนี้จะบ่งบอกอะไร ก็คงบ่งบอกว่า “พระเจ้ามีจริง”

 

ทำไมไม่มี

ขับรถมาสองอาทิตย์ รู้สึกรำคาญหลายๆ อย่างที่โรงงานไม่ยอมใส่มาในรถซักที แถวนี้ไม่รู้มีใครทำงานบริษัทรถบ้าง ช่วยเอาไอเดียไปบอกหัวหน้าที

  1. เซ็นเซอร์ด้านหน้า เซ็นเซอร์ถอยหลังเราก็มีกันมาเยอะแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมไม่ใส่เซ็นเซอร์ด้านหน้ากันซักที ราคาค่าเซ็นเซอร์ก็ไม่น่าจะแพงอะไรมากเทียบกับราคารถ ใส่ไปอีกสองตัวด้านหน้า เวลาต้องถอยออกจากซองแคบๆ มันช่วยได้เยอะ
  2. ปุ่ม mute ใครไม่เคยโทรศัพท์ในรถบ้าง? ผมเพิ่งรู้ว่าเวลาผมจะโทรศัพท์ในรถ (ใช้ Loud Speaker) ต้องปิดวิทยุก่อนทุกรอบ!!! ความจริงน่าจะใส่ปุ่ม mute อันโตๆ มาให้กดง่ายๆ เวลาจะรับโทรศัพท์กัน
  3. เซ็นเซอร์รถไหล ไม่รู้อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นเพราะรถไหลไปกี่รายแล้ว แต่ไม่น้อยแน่ๆ แค่ใส่เซ็นเซอร์ตรวจสอบว่ารถกำลังเคลื่อนที่โดยไม่ได้มาจากกำลังเครื่องยนต์ไม่น่าจะยากอะไร
  4. ทำไมรูกุญแจต้องเอาไปซ่อนหลังพวงมาลัย? กลัวใครจะเห็นหรือ? มันไขลำบากนะนั่น
  5. ไฟเดือนลืมเปิดไฟหน้า น่าจะเข้าท่าดี ถ้าหลังหกโมงแล้วไม่เปิดไฟหน้าจะมีไฟเตือนมาบอก บางทีถนนมันสว่างแล้วลืมตัวก็มีมาแล้ว
  6. เกนจ์น้ำมัน ใส่ตัวเลขทีได้ไหม ว่าตอนนี้มันเหลือประมาณกี่ลิตร ทำไมความเร็วรอบกับความเร็วรถก็ใส่เลขกันได้ พอมาถึงถังน้ำมันแล้วตัวเลขมันหาย
  7. เกนจ์แบตเตอรี่ น่าจะทำแบบโน้ตบุ๊กได้ มีบอกไปเลยว่าตอนนี้อยู่ที่กี่ % อาจจะแพงไปหน่อยแต่ถ้ารถรุ่นหรูๆ มีก็คงเท่ห์ดี

รวยเมื่อใหร่จะโมรถให้มันมีทุกอย่างเลย