นักการเมืองมันชั่ว

ผมคิดเรื่องนี้มานานแล้ว [มาร์คมาเขียนเรื่องนี้](http://www.isriya.com/node/3190/transform-thailand-1-เลือกตั้งผู้ว่า)เข้าพอดีเลยได้เวลา

เราเห็นคำพูดมากมายว่านักการเมืองนั้นชั่วช้าอย่างนั้น โกงอย่างนี้ ไม่รับผิดชอบ โดดประชุม ฯลฯ

เราจะมีส่วนแก้ได้อย่างไร?

คำตอบในเรื่องนี้ของผมคือแทนที่เราจะพยายามฟอกคนเหล่านี้ให้ขาวสะอาดขึ้นมา ด้วยการซักฟอกสารพัด ขุดโคตรเหง้ามาเจ็ดชั่วโคตร ฯลฯ เราควรกลับคำถาม

เราต้องตั้งคำถามว่าทำไมคนดีๆ (เช่นเราๆ ที่ด่านักการเมืองทุกวัน) จึงไม่ลงเล่นการเมือง

ผมเคยตั้งคำถามนี้เล่นๆ กับนักวิจารณ์การเมืองตัวยงรอบข้างผม คำตอบคล้ายๆ กันหมด

“ไม่เห็นคุ้มเลย”

ถ้าการเป็นนักการเมืองมัน__ไม่คุ้ม__เสียแล้ว เราจะคาดหวังให้คนดีๆ ลงไปทำงานการเมืองได้อย่างไรกัน เราอาจจะต้องเปลี่ยนตัวเอาเองก่อนเป็นอย่างแรก เราต้องช่วยกันทำให้การเมืองเป็นเรื่องที่__คุ้ม__ ที่คนดีๆ แต่มีครอบครัวต้องดูแล มีอนาคตรออยู่ข้างหน้า พร้อมจะเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองเพราะมัน__คุ้ม__

ถ้าใครบอกว่าคนเล่นการเมืองต้องเสียสละ อนาคต ความเป็นส่วนตัว และเสี่ยงต่อการถูกรังเกียจ ผมก็ขอเรียกร้องให้เขาลาออกจากงานไปเลือกตั้งสส. สมัยหน้า

ความคุ้มค่าไม่ใช่แค่เรื่องเงินเดือนอย่างเดียว แต่เราควรสร้างวัฒนธรรมที่มุ่งให้เห็นว่าการลงเล่นการเมืองเป็นเรื่องที่ทำได้ ถ้าคุณจะทำ

1. ใส่วันลางานไปหาเสียงไว้เป็น one-time leave แบบเดียวกับลาบวชหรือลาคลอด ไปเลย ชีวิตคนๆ หนึ่งลองลงสมัครสส. อบต. ฯลฯ ดูสักทีก็น่าจะดี
2. เพิ่มเงินเดือนให้มันคุ้ม น่าแปลกที่เงินเดือนนายกเราน้อยกว่าผู้ว่าแบงค์ชาติมากนัก เราอาจจะเห็นว่ามันเยอะ แต่ในระดับผู้บริหารด้วยกันแล้วคงต้องบอกว่าสภาพการทุกวันนี้ฐานเงินเดือนนายกอยู่ในระดับย่ำแย่
3. เปิดทางออกให้กับคนที่หมดสมัย ไม่ใช่ว่ามาเป็นสส.ดีๆ ได้สมัยเดียวแล้วสมัยหน้าสอบตก ต้องหมดอนาคต ไม่มีเงิน ไม่มีอาชีพ เราอาจจะสร้างระบบรับประกันตำแหน่งงานสำหรับการออกไปทำหน้าที่การเมือง (เหมือนไปเกณฑ์ทหาร) เราอาจจะต้องมีระบบบำนาญสำหรับอดีตนักการเมืองที่ยัง active อยู่ในวงการ ฯลฯ

ทำให้การมีส่วนร่วมทางการเมือง เป็นเรื่องของการเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเรื่องที่คนดีๆ ไม่ทำกันเช่นทุกวันนี้

 

The Cardinal of Kremlin

ตามโครงการ “เราจนเกินไปที่จะอ่านหนังสือภาษาไทย” ของผมเอง เล่มต่อมาที่อ่านคือ Tom Clancy: The Cardinal of Kremlin

288 บาทจากคิโนะฯ ไร้ส่วนลดใดๆ… กับความหนา 540 หน้า

เล่มนี้เป็นภาคต่อของ The Hunt for the Red October ที่หลายคนคงดูในหนังกันมาแล้ว ถ้ายังไม่เคยดู… จงหามาดู เพราะเป็นหนังที่ผมชอบมาก ไม่พูดพล่ามทำเพลง ผมสปอยย่อๆ ก่อน

  • เนื้อเรื่องเริ่มจาก CIA มีสายข่าวคนในที่ใหญ่มากในกองทัพรัสเซีย ชื่อรหัสว่า CARDINAL (ในเรื่องเขียนตัวใหญ่ และเป็นที่มาของชื่อเรื่อง)
  • CARDINAL ขายข่าวให้ CIA มาหลายสิบปี ทำไปทำมาจะโดนจับได้เอา
  • Ryan เด็กใหม่ เก่งโคตร และโชดดีฉิบหาย เดาอะไรก็ถูกเข้ามาบอกว่า ต้องช่วย CARDINAL ออกมาให้ได้ทุกราคา
  • ตัดจบเลย หลังจากโคตรลุ้น และเกือบจะพลาดอยู่แล้ว CIA ก็ชนะทุกอย่าง Happy Ending
  • เนื้อเรื่องกาโม่มากๆ
  • ตอนจบ CARDINAL แก่ตาย เสี่ยงชีวิตคนเป็นโหลช่วยมาแป๊บเดียวมันตายเองเลย

ประเด็นสำคัญไม่ใช่ตรงนั้น คำถามสำคัญของผมในเรื่องนี้คือ CARDINAL เลวไหม?

ในเรื่อง CARDINAL เป็นนักรบสามสมรภูมิ ได้เหรียญ Hero of the Russian Federation สามเหริยญรวด เขาทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศ ทุกอย่างรวงมถึงการทรยศต่อชาติ เขาเชื่อว่าการทำให้ประเทศของเขาเองพ่ายแพ้ทางการทหาร จะเป็นการปกป้องประเทศของเขาได้ดีที่สุด

อ่านแล้วผมโคตรซึ้งเรื่อง Zipang ที่บอกว่าญี่ปุ่นต้องก่อสงครามเพื่อแพ้สงครามก็คราวนี้

ในสมรภูมิที่ด้านหนึ่งแล้วทุกคนเป็นศัตรูกัน สหรัฐฯ เองเป็นศัตรูกับรัสเซีย ส่วนคนรัสเซียนั้นเป็นศัตรูกับ CARDINAL เพราะมองว่าทรยศชาติ

เราจะยังคงให้เกียรติกันและกันในฐานะคนที่เชื่อในอะไรบางอย่าง และต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตนเองเชื่ออย่างกล้าหาญได้หรือไม่?

One way or another we all fight for the things we believe in. – Jack Ryan

Hero of the Russian FederationHero of the Russian Federation
 

domain owner?

ผมสงสัยมาตลอด ว่าทำไมโดเมนไม่โดนพิทักทรัพย์ให้เจ้าหนี้ไป? เพราะมูลค่าตอนนี้คงไม่ต่ำกว่าสิบล้านเข้าไปแล้ว

ที่มา – [CheckDomain](http://www.checkdomain.com/cgi-bin/checkdomain.pl?domain=manager.co.th)

 

Bangkok 2008

จาก [Google Trends](http://www.google.com/trends?q=%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8C%2C+%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C%2C%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%2C+%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%8C&ctab=0&geo=TH&geor=tha.10&date=2008&sort=0)

ถ้าเกิดออกมาตรงๆ เท่านี้ (ชูวิทย์ได้สองเท่าของ อภิลักษ์ กับ ดร. แดน) ผมว่า Google Trends ดังแน่

ผลงานเก่านั้นแม่นใช้ได้เลย

__UPDATE:__

หลายๆ คนบอกว่าสาเหตุที่ชูวิทย์นำโด่งใน Google นั้นเป็นเพราะคลิปนี้ครับ