มันไม่ใช่

พอดีวันนี้ไปกินข้าวกับเพื่อนที่กำลังคิดจะเปลี่ยนงานเพราะ “มันไม่ใช่” เลยนึกขึ้นมาได้ ถึงรายการวิทยุวันก่อน

DJ – น้องคิดว่าคนที่น้องคบอยู่นี่เป็นคนที่ใช่รึเปล่าครับ

ญ – เอ คิดว่าไม่ใช่นะคะพี่

DJ – แล้วอย่างนี้น้องคบกับเค้ามานานรึยังครับ

ญ – ก็ 8 ปีแล้วนะพี่

DJ – 8 ปี!!! น้องคิดว่าไม่ใช่แล้วยังทนคบกันอยู่อีกเหรอครับ?

ญ – ก็มีลูกด้วยกันสองคนแล้วอ่ะพี่

DJ – …

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “หญิงไทยใจร้าย…”

 

you known it

ขับรถกลับบ้านแล้วเจอรายการวิทยุให้คู่รักโทรมาคุยกันหน้าไมค์…

DJ – แฟนเราเค้าน่ารักมั๊ย

ญ –  เอ่อ…. (ทิ้งเวลาพอให้รู้ว่ามีคำตอบในใจ) ก็… (จะตอบแล้วล่ะ แต่กรูกั๊ก) ก็น่ารักคะ

DJ – แล้วฝ่ายชายล่ะครับ รักแฟนเรามั๊ย

ช – เอ่อ…. (เออ เอ็งเจอคู่แท้แล้วล่ะ) ก็… (แน่นอนเลย สองคนนี้สร้างมาเพื่อกันและกัน) รักครับ

[บทสนทนาอันหวานชื่น ดำเนินต่อไป โดยมีคนโสดขับรถฟังอยู่คนเดียว..]

[เข้าช่วงสั่งลา มีของที่ระลึกให้เลือก]

DJ – ระหว่าง XXX1 กับ XXX2  จะเลือกอะไรครับ

ช – ให้ ญ เลือกเลยครับ

ญ – ให้ ช เค้าเลือกค่ะ เขารู้ใจหนูว่าหนูอยากได้อะไร

….

(มันไม่รอดแน่ๆ)

 

คุณไม่สวยหรอก

คุณไม่สวยหรอก… แต่ผมก็มองไม่เคยเบื่อ

รูปร่างคุณไม่ได้ดีกว่าใคร… แต่ผมก็แอบมองคุณเสมอ

เสียงคุณไม่ได้เพราะหรอก… แต่ผมก็แค่อยากฟัง

คุณไม่สวยหรอก….

 

การแลกเปลี่ยน

ว่ากันว่า ความรักที่แท้นั้นเป็นความรักที่เพื่อคนอื่น ส่วนความรักที่เอาเข้าตัวอย่างเดียวนั้นจะกลายเป็นความเห็นแก่ตัวไป

หนังรักเรื่องหนึ่งที่อยู่ในหัวผมอยู่เสมอคือเรื่อง As Good as It Gets มันเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่เป็นโรค [OCD](http://en.wikipedia.org/wiki/Obsessive-compulsive_disorder) ทำให้ตัวเขาเองมีความคิดในแง่ลบ และพูดอะไรต่อมิอะไรในแง่ลบตลอดเวลา

แล้วชายคนนี้ก็มีความรัก…

สปอยกันดื้อๆ ว่าหนังเรื่องนี้จบ Happy Ending แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

เรื่อง [As Good as It Gets](http://en.wikipedia.org/wiki/As_Good_as_It_Gets) นั้นให้มุมมองที่คล้ายๆ เรื่อง “เวลาในขวดแก้ว” แต่เป็นมุมมองของความรัก ทั้งสองเรื่องจบแบบมีความสุขโดยที่ถ้าใครดูในเนื้อหาแล้ว อุปสรรคของความสุขที่มีมาตลอดเรื่องนั้นไม่ได้หายไปไหน

Melvin ซึ่งเป็นพระเอกนั้นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเอาชนะอาการของเขาเองที่ทำให้เขาพูดสิ่งต่างๆ ที่เลวร้าย ชนิดที่ว่าผู้หญิงคนไหนได้ยินคงร้องไห้ตลอดเวลา นางเอกคือ Carol นั้นก็รับรักของ Melvin โดยตระหนักดีว่าเขาจะไม่สามารแก้ปัญหาของเขาได้ดีไปกว่านี้อีกแล้วดังชื่อเรื่อง (ดีเท่าที่จะทำได้…)

ในโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์ ไม่มีเลย เราทุกคนล้วนมีข้อเสียบางอย่างที่ทำให้คนที่เรารักเจ็บปวดได้เสมอ

ดูจะเป็นความขัดแย้งที่แปลกประหลาด ขณะที่เรารักคนๆ หนึ่งแล้วอยากให้เขามีความสุข เราพบว่าตัวเราเองนั่นแหละที่ทำให้เขาทุกข์อยู่ด้วย

แน่นอนไม่ใช่ความรักทุกครั้งจะเป็นเช่นนี้ คู่รักหลายคู่เลือกที่จะจบความสัมพันธ์เพื่อจะจบความเจ็บปวดนั้น

ดูเหมือนว่าจะไม่มีเส้นแบ่งใด บอกได้ว่าตรงไหนกันที่ความสัมพันธ์หนึ่งๆ จะไปต่อ หรือจะจบลง เพราะทุกความสัมพันธ์นั้นเองก็มีด้านที่เลวร้ายอยู่ด้วยกันทั้งนั้น

เราเลือกที่จะแลกเปลี่ยนกันระหว่างความสุขและความทุกข์ที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์เหล่านี้ เพราะมันเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าเท่านั้นหรือ?