What is it?

เรื่องหนึ่งที่คิดว่าต้องมีใน blognone คือคอลัมน์เสริมความรู้แบบไม่ใช่ข่าว เช่นว่า Acid2 คืออะไร Wiki คืออะไร ฯลฯ

ประเด็นที่น่าทำเรื่องนี้คือการที่ฐานผู้อ่าน Blognone กว้างขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้เราใช้ระบบอธิบายในการเขียนข่าวครั้งแรก และเริ่มอธิบายน้อยลงเรื่อยๆ ในข่าวต่อๆ ไป โดยหวังว่าผู้อ่านจะอ่านตามๆ ไปกับผู้เขียน แต่มันไม่น่าใช่ความผิด ที่ผู้อ่านจะมาอ่านตามในตอนหลังเท่านั้น

ยังคิดรูปแบบไม่ออก แต่อาจจะเชื่อมต่อเข้ากับ blognone library ด้วยการสร้าง namespace ใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะแล้ว sync กับ wikipedia thai เมื่อบทความยาวได้ที่ในระดับหนึ่ง

ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยม่ะ….

 

Scaling Blognone

ปัญหาอย่างหนึ่งที่ต้องเริ่มคิดให้กับ Blognone แล้วคือเรื่องของการขยายขนาด เราต้องเตรียมตัว “แตกเพื่อโต” ให้กับ Blognone ในเร็ววัน

ขณะที่โครงการอื่นๆ เช่น Blognone Library ยังคงอีกยาวไกลกว่าจะเริ่มได้รับความสนใจ ตัว Blognone เองคงต้องเตรียมการขยับขยายกัน

กระบวนการขยายที่เป็นรูปธรรมที่สุดคือ One Process  Many Domain นั่นคือเราจะขยายคงกระบวนการของ Blognone ไว้เหมือนเดิมทั้งหมด และค่อยๆ ขยายแนวทางออกไปเรื่อยๆ

เช่นในตอนนี้เอง ที่ข่าววิทยาศาสตร์มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าใครสังเกตคงเห็นว่าหลังๆ ผมเขียนข่าวคอมพิวเตอร์น้อยลงๆ แล้วหันไปเขียนข่าววิทยาศ่าสตร์เรื่อยๆ ในช่วงเวลาข้างหน้าเราคงได้เห็นโครงการ Blognone Science & Medical กัน

อีกเรื่องที่อยากทำมานานแล้วแต่ไม่สำเร็จคือการทำ In-Depth ให้ขยายตัวออกไปเป็นโครงการแยกได้ ด้วยการเขียน Programming Tutorial แบบสั้นๆ เช่น แนะนำ jQuery หรือ jinja มารวมๆ กัน อันนี้ได้แรงบันดาลใจจากพี่ป๊อกเป็นหลัก แต่ไม่มีแรงเขียนได้เป็นประจำเพราะแต่ละบทความใช้เวลาเป็นชั่วโมงเอาเหมือนกัน เลยกำลังคิดว่าจะทำยังไงดี  โครงการนี้ถ้าทำคงอยู่ที่ Codenone.com ต่อไป

ที่อยากได้มานานแล้วคือข่าวการเมือง แต่เนื่องจากสื่อเมืองไทยไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก การหา Primary Source ที่ดีจึงทำได้ยาก อันนี้ต้องหาทางแก้กันต่อไป

 

BTD3

คิดอะไรไม่ออกนอกจากตอนกินข้าวจะสนุกกว่าตอนงานเยอะ (สำคัญมากห้ามพลาด…)

 

Community Redesign

เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้สร้างคำถามคำถามหนึ่งที่ผมสนใจว่ามันมีทางที่จะให้ชุมชนมีส่วนร่วมมากขึ้นหรือไม่? แต่คงมีประเด็นอีกหลายอย่างที่ต้องคิด

  1. ง่ายที่สุดคงเป็น Digg ที่หวังพึ่งคะแนนจากผู้ใช้อย่างเดียว แต่ผมไม่เชื่อในรูปแบบของ Digg เพราะสุดท้ายแล้ว Content ที่ Digg สร้างขึ้นมาผมเองก็ยังเลิกอ่าน เข้าใจว่าปัญหาหลักคือมีการรวมกลุ่ม แล้วโหวตกันเองในกลุ่ม
  2. ระบบ Karma ของ /. ก็น่าสนใจ คุณภาพความเห็นของ /. ถ้าคะแนนเกิน 4 แล้วจะค่อนข้างมีคุณภาพ แต่โดยส่วนตัวแล้วมองว่าซับซ้อนเกินความจำเป็น เอาเข้าจริงแล้วกลุ่ม non-geek อาจจะไม่ยอมรับ
  3. สามารถกำหนดแนวทางได้ อาจจะให้คนที่ผมเชื่อว่ามีความเห็นที่เข้าทาง มีผลต่อชุมชนมากกว่าคนอื่นๆ ????
  4. แบนรายความเห็น หรือรายบุคคล หรือมีแบบอื่น???

ยังนึกรูปแบบไม่ออกแฮะ