Don’t be a zealot.

จากเหตุการณ์ช่วงนี้ เป็นเรื่องที่ผมคาดคิดไว้อยู่แล้วว่าเมื่อ Blognone คนมากขึ้นมันต้องเจอเข้าแน่ๆ แต่ไม่ถึงเวลามันก็นึกกันไม่ออก เลยมารวมรวบไอเดียเอาไว้ เนื่องจากยังไม่ได้เรียบเรียง เลยลุยเป็นข้อๆ ไปล่ะกัน

– ไม่แปลกเลยที่ใครจะชอบหรือไม่ชอบอะไร ผมลำเอียงเสมอ เข้าข้าง ThinkPad อย่างเห็นได้ชัด และมีแง่ลบกับปชป. อยู่
– ปัญหาสำคัญคือพวกขี้น้อยใจ เชื่อผมเถอะ ไม่ว่าจาวา ไมโครซอฟท์ แอปเปิล ฯลฯ เค้าไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรหรอกที่มีคนมาช่วยน้อยใจ บริษัทมันขายของได้มีกำไรก็แบ่งผู้ถือหุ้นไป ง่ายๆ อย่างนั้น
– Blognone เป็นเว็บไอที Apple, ThinkPad ฯลฯ __ไม่ใช่ความเชื่อ__ ไม่ใช่ศาสนา ไม่มีศาสดา ไม่มีซาตาน หลบหลู่ได้ ไม่บาป
– ถ้าเรียนบริหารมาบ้าง คงรู้จักกับ SWOT Analysis ถ้ารักชอบอะไรต้องยอมรับว่าของแต่ละอย่างมันมี Weakness ในตัวมัน ป่วยการที่จะไปไล่บอกชาวบ้านว่าอย่าพูดถึง Weakness
– ว่าง่ายๆ เวลาเจอจุดอ่อน เงียบไว้ได้ ไม่มีใครว่า การไปไล่จี้คนอื่นมาตอบความเห็นตัวเองเป็นอาชญากรรมใน Blognone
– เวลาดีช่วยกันชมเข้าไปก็ได้อีกไม่ว่ากัน +1 ได้บวกไป +10 หรือ +1000 ดูเหมือนเด็กตอบสำหรับผม การบวกเลขมากๆ แสดงความเห็นด้วยมากๆ จะชวนให้ผมรู้สึกว่าความเห็นนั้นน่าจะไม่น่าอ่าน
– ใช้อยู่ก็ติได้ ไม่ใช้ก็ติได้อยู่ดี มันมีเรื่องให้ติเลยไม่ใช้แปลกตรงไหน (ว่ะ)
– ห่วยมากเกินอย่าใช้ ไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่าให้ทนต่อไป ทนไม่ได้เปิดบริษัทสร้างสินค้าเองเลย
– ไม่มีงบเลยไม่ใช้ก็ไม่แปลก ต่อให้เงินเดือนเดือนละล้านก็คงไม่ซื้อตัว Top ทุกยี่ห้อมาเผาเงินเล่น มีเงินเดือนเดือนละล้านผมใช้ R61 แล้วสร้างบ้านหรูๆ อยู่ดี
– คนดูถูกคนอื่นด้วยความจนเป็นคนชั้นต่ำในสายตาผม
– แบรนด์เป็นข้อดี ใช้แล้วดูดีเป็นข้อดี เห็นด้วยเสมอ แต่ประเภทดูดีแล้วรู้สึกว่ามันทนอันนี้เริ่มเป็นความเชื่อ ไม่มีไวรัส ไม่แฮงค์ อันนี้มั่ว ควรตั้งสติก่อนจะเชื่อว่าใช้แล้วบินได้
– เชื่อเถิดว่าไม่มีสินค้าใดสมบูรณ์ ถ้ามีแล้วจีนแดงลอกได้ บริษัทในอเมริกาคงเจ๊งกันหมด
– เพราะฉะนั้นมันจะมีคนติ มันจะมีคนด่า บริษัทมันถึงต้องมี wishlist ให้คนขอการปรับปรุง
– แพงก็เป็นข้อเสีย ไม่แปลกที่มันจะโดนติเพราะมันแพง กาแฟในม. ผม 40 บาทผมก็ติทุกวัน ปากซอยบ้านผม 25 บาทอร่อยไม่ต่างกัน

ผมไม่ใช่คนพุทธ ผมไม่เชื่อว่าคนเราควรละจาก “อารมณ์” สำหรับผมแล้ว “โกรธคือโกรธ โมโหคือโมโห” โกรธได้ โมโหได้ แต่ตำถามคือเราใช้มันเป็นแรงผลักดันอะไร? ประเภทว่า “อัดมันกลับไป” อย่างนี้มันไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ถ้าคิดอะไรมากกว่านั้นอีกขั้น ใช้แรงจากอารมณ์ตอนนั้นในเชิงบวก ตอบโต้ด้วยข้อมูลและการ contribute ในด้านที่เราสนับสนุ

ผมเชื่อว่ามันจะทำให้โลกดีกว่านี้

 

lewcpe

CTO at MFEC PLC. Chief Editor at Blognone.com

 

5 thoughts on “Don’t be a zealot.

  1. บางข้อเห็นด้วย บางข้อก็ไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องธรรมดา
    แต่สำหรับผมแล้วการควบคุมอารมณ์ถือว่าเป็นเรื่องควรกระทำ เพราะอารมณ์จะทำให้เราขาดสติอันนี้เป็นเรื่องจริงนะ

  2. มาแก้ให้นิดนึง

    จะว่าไปเรื่องอารมณ์มันทางเดียวกัน จะละอารมณ์ได้ แรกสุดก็ต้องรู้ว่ามีอารมณ์ คนโกรธจัดๆน่ะ ไม่ทันอารมณ์ตัวเองหรอก

    พอตา่มอารมณ์ทัน ทีนี้ก็คิดได้ ว่าจะเอาอารมณ์มา contribute ไปทางไหน หรือจะทิ้งมันไปเลย ;D

  3. เข้ามา +1 ครับ

    เห็นด้วยอย่างแรง แล้วก็เข้าใจความรู้สึกของคนที่ทำเว็บขึ้นมาในเวลาแบบช่วงนี้ แต่อย่าว่ามันเป็นเรื่องใหม่เหมือนกันนะในสังคม IT เมืองไทย เรายังไม่เคยเถียงกันเรื่องพวกนี้ ในขณะที่ฝรั่งเค้าเถียงเรื่องนี้กันเมื่อ 10 ปีก่อน .. ถ้ามองในแง่ดีก็คือการเกิดวิวาทะในตอนนี้ อาจจะดีขึ้นในอีก 10 ปีต่อไป :)

  4. ทุกครั้งที่ผมเห็นคอมเมนท์อวยฯใครเยอะๆ หรือเหยียบใครมากๆ ผมมักจะทำใจว่าคนเรามันหลากหลายความคิด ย่อมมีความต่างกันเป็นธรรมดา ผมจะเลือกคุยกับคนที่ดูแล้วว่าน่าจะพอมีวุฒิภาวะในการที่จะถกกันบนพื้นฐานของเหตุผล มากกว่าจะไปเสียเวลากับคอมเมนท์ที่ไม่สร้างสรรค์นะครับ เวลาคนมาอยู่รวมกันเยอะๆ มันก็มีบางเรื่องที่เราต้องทำใจ และมองข้ามมันไปซะบ้าง … ใช่ไหมครับ

    ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้ละอารมณ์นะครับ ใครไปเรียนมาว่าละแปลว่าเข้าใจผิด เขาสอนให้ “รู้” อารมณ์ต่างหาก รู้ไปเฉยๆนั่นแหละครับ

Comments are closed.